วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องกระทบกระทั่งระหว่างไนจีเรียกับอังกฤษ


เรื่องกระทบกระทั่งระหว่างไนจีเรียกับอังกฤษ


 หลายเดือนมานี้ไนจีเรียกับอังกฤษไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่

ปัญหามาจากเรื่องที่เมื่อเดือนมิถุยายน ศกนี้ กระทรวงมหาดไทยอังกฤษประกาศให้ไนจีเรียรวมอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการที่ผู้ขอวีซ่าเข้าอังกฤษจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเข้าเมืองของประเทศ ซึ่งนอกจากไนจีเรียแล้วประเทศที่ถูกระบุยังประกอบด้วย กานา อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกาและบังกลาเทศ

เริ่มจากเดือนพฤศจิกายน 2556 ทางการอังกฤษจะบังคับใช้ระเบียบใหม่ในการยื่นคำร้องขอวีซ่าสำหรับประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว โดยผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปซี่งยื่นขอวีซ่าประเภทที่สามารถพำนักอยู่ในประเทศได้นานเกิน 6 เดือนขึ้นไปจะต้องวางเงินประกันจำนวน 3,000 ปอนด์ (4,600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,500 ยูโร หรือประมาณ 750,000 ไนร่า) โดยเงินประกันนี้ หากผู้ร้องขอวีซ่าไม่เดินทางออกจากอังกฤษเมื่อวีซ่าหมดอายุทางการอังกฤษจะยึดเงินจำนวนนี้เป็นเงินของแผ่นดิน แต่หากผู้ร้องขอวีซ่าเดินทางออกจากอังกฤษตามกำหนดก็สามารถเรียกเงินประกันคืนได้

กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษแถลงว่า ระเบียบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสนองตอบนโยบายของรัฐบาลอังกฤษที่ต้องการจำกัดจำนวนคนต่างชาติซึ่งอพยพเข้าไปอยู่ในอังกฤษโดยผิดกฎหมายเข้าเมือง และไปแย่งใช้สาธารณูปโภคของชาวอังกฤษอยู่ในปัจจุบัน

ตามสถิติเมื่อปี 2555 ทางการอังกฤษออกวีซ่าประเภท 6 เดือนให้คนชาติอินเดีย 296,000 ราย ไนจีเรีย 101,000 ราย ปากีสถาน 53,000 ราย ศรีลังกาและบังกลาเทศ ประเทศละ 14,000 ราย

รัฐบาลไนจีเรียไม่พอใจระเบียบการขอวีซ่าใหม่ที่ทางการอังกฤษจะนำมาใช้ โดยเห็นว่าเป็นระเบียบที่เลือกปฏิบัติอันแสดงถึงการเหยียดผิวและมีอคติต่อชาวไนจีเรีย

มีรายงานในหน้าหนังสือพิมพ์ด้วยว่ารัฐมนตรีต่างประเทศไนจีเรียขู่ไว้ว่าหากอังกฤษบังคับใช้ระเบียบการขอวีซ่าใหม่ต่อคนชาติไนจีเรียเมื่อใด รัฐบาลไนจีเรียจะตอบโต้โดยจะออกระเบียบบังคับเฉพาะชาวอังกฤษที่ยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไนจีเรีย ให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกันเช่นเดียวกัน แต่จะกำหนดให้มากกว่าเป็น 5,000 ปอนด์ไปเลย

เรื่องนี้ยังไม่จบแต่นำมาเล่าไว้ให้เห็นบรรยากาศในประเทศนี้ และวิธีคิดของผู้ผู้บริหารบ้านเมือง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น