วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รองนายกรัฐมนตรีเยือนไนจีเรีย



รองนายกรัฐมนตรีเยือนไนจีเรีย

            เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางถึงกรุงอาบูจา สาธารณรัฐไนจีเรีย ในภารกิจการเยือนสาธารณรัฐไนจีเรียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20 - 21 สิงหาคม 2556 โดยนับเป็นการเยือนไนจีเรียครั้งแรกของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี พ.ศ. 2505

            ในช่วงเช้า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้เดินทางไปเข้าเยี่ยมคารวะนายโอลูเบนกา อาโยเดจิ อาชิรุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไนจีเรีย และร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวขอบคุณทางการไนจีเรียในการให้ความช่วยเหลือคนไทย 4 คน ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2556 รวมทั้งแสดงความพร้อม ที่จะยกระดับความสัมพันธ์กับไนจีเรียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ มุ่งเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็นสองเท่า จาก 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในปัจจุบัน เป็น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 5 ปีข้างหน้า และประกาศที่จะดำเนินความร่วมมือกับไนจีเรียในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน อาทิ ความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และความร่วมมือด้านการพัฒนา ขณะที่ฝ่ายไนจีเรียได้ตอบรับโครงการความร่วมมือ กับไทย และทั้งสองฝ่ายยืนยันให้การสนับสนุนกันในเวทีระหว่างประเทศ และแสดงความพร้อม ในการร่วมมือกันในหลายมิติไม่ว่าจะใน ระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และในเวทีระหว่างประเทศ

            ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการประชุม Political Consultation ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยและไนจีเรียด้วย

            หลังจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกู๊ดลัก โจนาธาน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐไนจีเรีย ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยทั้งสองฝายได้หารือในประเด็นสำคัญใน ความสัมพันธ์ทวิภาคี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งคำเชิญของนายกรัฐมนตรีต่อ ประธานาธิบดีเพื่อเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำในกรอบ Thai-Africa Initiative ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557

            ในช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบหารือกับนายโอลูเซกัน โอลูโตยิน อกันกา รัฐมนตรีด้านการค้าและการลงทุนของ ไนจีเรีย เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกัน และความร่วมมือด้านการค้าต่าง ๆ อาทิ ข้าว พลังงาน รวมถึงผลักดันให้มีการลงนามความตกลงการค้า

            รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้พบหารือกับกลุ่มนักธุรกิจผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของ ไนจีเรีย เกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค และทิศทางการเพิ่มพูนมูลค่าการนำเข้าข้าวจากประเทศไทย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ จะนำปัญหาที่ภาคเอกชนประสบ อาทิ ปัญหาการแบกรับภาษี นำเข้าข้าว ไปหาทางแก้ไขร่วมกับรัฐบาลไนจีเรียต่อไป

            ในวันที่ 21 สิงหาคม 2556 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Anyim Pius Anyim ตำแหน่ง Secretary of the Government of Nigeria เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาความ สัมพันธ์ทวิภาคี โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบาย Transformation ของประธานาธิบดีไนจีเรีย และโครงการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งประเทศไนจีเรีย

            ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบปะกับผู้แทนแรงงานไทย 4 คน ซึ่งทำงานอยู่ที่รัฐ River States ซึ่งถูกลักพาเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 และต่อมาถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 โดยได้พูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การงาน และชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งผู้แทนคนไทยได้กล่าวขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศในความห่วงใย และการให้ความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ดังกล่าว

            ไนจีเรียมีประชากรประมาณ 170 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา มีบทบาทสำคัญในเรื่องสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และยังเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 2 ของไทยในทวีปแอฟริกา โดยเป็นตลาดส่งออกข้าวนึ่งอันดับ ๑ ของไทยในตลาดโลก การเยือนครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งและมีความหมายต่อการยกระดับความสัมพันธ์ไทย - ไนจีเรียเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ต่อไปในอนาคต

            เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางถึงกรุงอาบูจา สาธารณรัฐไนจีเรีย ในภารกิจการเยือนสาธารณรัฐไนจีเรียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20 - 21 สิงหาคม 2556 โดยนับเป็นการเยือนไนจีเรียครั้งแรกของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี พ.ศ. 2505

            ในช่วงเช้า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้เดินทางไปเข้าเยี่ยมคารวะนายโอลูเบนกา อาโยเดจิ อาชิรุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไนจีเรีย และร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวขอบคุณทางการไนจีเรียในการให้ความช่วยเหลือคนไทย 4 คน ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2556 รวมทั้งแสดงความพร้อม ที่จะยกระดับความสัมพันธ์กับไนจีเรียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ มุ่งเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็นสองเท่า จาก 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในปัจจุบัน เป็น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 5 ปีข้างหน้า และประกาศที่จะดำเนินความร่วมมือกับไนจีเรียในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน อาทิ ความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และความร่วมมือด้านการพัฒนา ขณะที่ฝ่ายไนจีเรียได้ตอบรับโครงการความร่วมมือ กับไทย และทั้งสองฝ่ายยืนยันให้การสนับสนุนกันในเวทีระหว่างประเทศ และแสดงความพร้อม ในการร่วมมือกันในหลายมิติไม่ว่าจะใน ระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และในเวทีระหว่างประเทศ

            ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการประชุม Political Consultation ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยและไนจีเรียด้วย

            หลังจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกู๊ดลัก โจนาธาน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐไนจีเรีย ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยทั้งสองฝายได้หารือในประเด็นสำคัญใน ความสัมพันธ์ทวิภาคี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งคำเชิญของนายกรัฐมนตรีต่อ ประธานาธิบดีเพื่อเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำในกรอบ Thai-Africa Initiative ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557

            ในช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบหารือกับนายโอลูเซกัน โอลูโตยิน อกันกา รัฐมนตรีด้านการค้าและการลงทุนของ ไนจีเรีย เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกัน และความร่วมมือด้านการค้าต่าง ๆ อาทิ ข้าว พลังงาน รวมถึงผลักดันให้มีการลงนามความตกลงการค้า

            รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้พบหารือกับกลุ่มนักธุรกิจผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของ ไนจีเรีย เกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค และทิศทางการเพิ่มพูนมูลค่าการนำเข้าข้าวจากประเทศไทย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ จะนำปัญหาที่ภาคเอกชนประสบ อาทิ ปัญหาการแบกรับภาษี นำเข้าข้าว ไปหาทางแก้ไขร่วมกับรัฐบาลไนจีเรียต่อไป

            ในวันที่ 21 สิงหาคม 2556 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Anyim Pius Anyim ตำแหน่ง Secretary of the Government of Nigeria เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาความ สัมพันธ์ทวิภาคี โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบาย Transformation ของประธานาธิบดีไนจีเรีย และโครงการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งประเทศไนจีเรีย

            ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบปะกับผู้แทนแรงงานไทย 4 คน ซึ่งทำงานอยู่ที่รัฐ River States ซึ่งถูกลักพาเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 และต่อมาถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 โดยได้พูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การงาน และชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งผู้แทนคนไทยได้กล่าวขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศในความห่วงใย และการให้ความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ดังกล่าว

            ไนจีเรียมีประชากรประมาณ 170 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา มีบทบาทสำคัญในเรื่องสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และยังเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 2 ของไทยในทวีปแอฟริกา โดยเป็นตลาดส่งออกข้าวนึ่งอันดับ 1 ของไทยในตลาดโลก การเยือนครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งและมีความหมายต่อการยกระดับความสัมพันธ์ไทย - ไนจีเรียเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ต่อไปในอนาคต

ที่มา: เว็บไซต์กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา http://sameaf.mfa.go.th/th/news/detail.php?ID=4592&SECTION=DEP_ACT



วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปัญหาความปลอดภัยของสตรี



ปัญหาความปลอดภัยของสตรี

สำนักงานทนายของรัฐ (Office of Public Defender) กระทรวงยุติธรรมรัฐลากอสเปิดเผยว่าในช่วงหกเดือนแรกของปี 2556 มีคดีข่มขืนกระทำชำเราเกิดขึ้นในรัฐลากอสแล้ว จำนวน 93 ราย โดยจำแนกคดีเป็นรายเดือนได้ดังนี้ เดือนมกราคม  7 ราย กุมภาพันธ์ 6 ราย มีนาคม 24 ราย เมษายน 21 ราย พฤษภาคม 29 ราย และมิถุนายน 6 ราย

 สถิติดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2555 ซึ่งมีคดีข่มขืนกระทำชำเราในรัฐลากอสเพียงจำนวน 42 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 51

สำนักงานทนายของรัฐ เป็นหน่วยงานสังกัดกรมสิทธิพลเมือง กระทรวงยุติธรรมรัฐลากอส ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2543 เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ผู้ด้อยโอกาสทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่งโดยไม่คิดมูลค่า


วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไนจีเรียนำเข้ารถยนต์ปีละ 600 พันล้านไนร่า



ไนจีเรียนำเข้ารถยนต์ปีละ 600 พันล้านไนร่า

ปัจจุบันไนจีเรียนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศปีละประมาณ 200,000 คัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600 พันล้านไนร่า

รถยนต์ที่นำเข้าแต่ละปีดังกล่าวเป็นรถใหม่ถอดด้ามประมาณ 50,000 คัน และเป็นรถเก่าหรือรถมือสองประมาณ 150,000 คัน

หากจำแนกรถนำเข้าเป็นรถนยนต์นั่งโดยสาร (passenger cars)  รถบรรทุก และรถเพื่อใช้ประโยชน์อื่นๆ การนำเข้ารถยนต์นั่งโดยสารมีมูลค่ารวม 400 พันล้านไนร่า ส่วนรถบรรทุกและรถใช้งานอื่นๆมูลค่ารวม 200 พันล้านไนร่า

(อัตราแลกเปลี่ยน 5 ไนร่า = 1 บาท)

ที่มา: National Automotive Council (NAC)