อาคารสำนักงานใหญ่ของบรรษัทถ่านหินไนจีเรีย
ถ่านหิน
: แหล่งพลังงานของไนจีเรียที่รอการฟื้นฟู
ไนจีเรียมีแหล่งถ่านหินใต้ดินในพื้นที่
15 รัฐทั่วประเทศ ที่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมาใช้ประมาณ 2.5 พันล้านตัน
มีตั้งแต่ถ่านบิทูมินัสไปจนถึงถ่านลิกไน้ท์
โดยแหล่งถ่านหินใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดและสามารถขุดมาใช้เชิงพาณิชย์ได้คุ้มค่าคือแหล่ง
อะนัมบรา เบซิน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.5 ล้านเฮกตาร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
ไนจีเรียขุดพบถ่านหินครั้งแรกทางตอนกลางของภาคตะวันออกของประเทศเมื่อปี
ค.ศ. 1909 และได้เปิดทำเหมืองถ่านหินมาจนกระทั่งปี 1950 รัฐบาลขณะนั้นจึงตั้งบรรษัท
ถ่านหินไนจีเรียขึ้นทำหน้าที่สำรวจและพัฒนาแหล่งถ่านหินรวมไปถึงบริหารจัดการด้านการตลาด
โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่รัฐเอนุกุและรัฐบาลสหพันธ์เป็นเจ้าของ ทั้งนี้ตั้งแต่ตั้งมาบรรษัท
ได้เปิดทำเหมืองถ่านหินแบบเหมืองขุดสองแห่งคือเหมืองโอเยมาและเหมืองโอคพารา
และทำเหมืองเปิดอีกสองแห่งได้แก่เหมืองโอรุกปา และโอคาบา
ระหว่างปี
1950-59 ผลผลิตถ่านหินจากเหมืองในรัฐเอนุกุเพิ่มขึ้นทุกปีจาก 583,487 ตันเพิ่มขึ้นมาเป็น 905,397 ตัน แต่หลังจากปี 1959
เป็นต้นมาผลผลิตกลับลดลงทุกปีประจวบกับช่วงปี 1966- 1970 ไนจีเรียมีสงครามกลางเมืองซึ่งไม่มีสถิติรายงานผลผลิตถ่านหินในช่วงดังกล่าว
ช่วงทศวรรษ
1980 ผลผลิตถ่านหินแต่ละปีไม่ถึง 100,000 ตัน
และยังลดลงเรื่อยมาตลอดทศวรรษ 1990 อีกด้วย
โดยผลผลิตถ่านหินในช่วงนี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถไฟ และส่วนหนึ่ง
ซึ่งเป็นปริมาณน้อยมากส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
บรรษัท
ถ่านหินพยายามหาทางปรับปรุงกิจการด้วยการทำความตกลงร่วมทุนกับบริษัทต่างประเทศเพื่อทำเหมืองถ่านหินแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
มีรายเดียวที่ประสบความสำเร็จคือการตกลงแบ่งผลผลิตกับบริษัทนอร์ดิก อินดัสตรี
จำกัดเพื่อผลิตถ่านหินจำนวน 2,712 ตันจากเหมืองโอคาบาเมื่อปี 2001
ประกอบกับตั้งแต่ไนจีเรียเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ปี
1999 รัฐบาลใหม่ได้ปฏิรูประบบเศรษฐกิจโดยเน้นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นของเอกชน
โดยให้หน่วยงานของรัฐเป็นเพียงผู้ควบคุมกฎระเบียบแทนการเป็นเจ้าของกิจการและเป็นผู้ผลิต
ในระหว่างหลายปีที่นโยบายของรัฐบาลเปลี่ยนไป
องค์การถ่านหินตกอยู่ในสภาพมีหนี้สิน
และต้องแปรรูปกิจการโดยขายกิจการที่บรรษัทมีอยู่เพื่อใช้หนี้
ซึ่งรวมถึงเงินบำนาญของลูกจ้างองค์กรจำนวนมาก ที่เกษียณไปโดยไม่ได้รับบำนาญ
การขายกิจการขององค์การรวมถึงการประกาศขายสำนักงานก่อความขัดแย้งกับสหภาพแรงงานซึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่องค์การจะขายทุกอย่าง
ผู้บริหารบรรษัทถ่านหินไนจีเรียเปิดเผยว่า
ปัจจุบันรัฐบาลได้อนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินให้แก่นักลงทุนจากจีนรวม 7 โครงการ
ซึ่งเชื่อว่าหากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูกิจการเหมืองถ่านหินของไนจีเรียกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น