กรุงอาบูจากำลังขยายตัว
นับแต่ประกาศตั้งกรุงอาบูจาเป็นเมืองหลวงของประเทศเมื่อวันที่
4 กุมภาพันธ์
2549 (1976) เป็นต้นมาชาวไนจีเรียจากทั่วสารทิศก็หลั่งไหลอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
จนปัจจุบันสาธารณูปโภคที่ทางการจัดให้บริการอาทิ ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบโทรคมนาคม ระบบขนส่งมวลชน
มีไม่เพียงพอที่จะรองรับได้
อันที่จริงน้ำดิบที่นำมาผลิตเป็นน้ำประปาเป็นน้ำมาจากเขี่ยนอุสมัน
ซึ่งมีปริมาณมากเพียงพอสำหรับเมืองใหญ่ที่กำลังขยายตัว
แต่การจัดระบบประปาไม่สามารถตอบสนองแก่ประชากรที่อพยพเข้ามาตั้งชุมชนแถบนอกเมืองได้ทัน
ทำให้ชุมชนรอบนอกเมืองหลวงแห่งนี้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค
การขยายตัวของชุมชนนอกเมืองหลวงแห่งนี้เป็นปัญหาใหญ่
เนื่องจากบางชุมชนมีการขยายตัวของประชากรถึงปีละ 20-30% เท่านั้นยังไม่พอ พวกที่อพยพมาใหม่นั้น
หากไม่สามารถสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยได้ในชุมชนเดิมที่มีอยู่ก็จะพากันไปตั้งชุมชนใหม่กระจัดกระจายตามชอบใจ
โดยไม่ขออนุญาตทางการ
เจ้าหน้าที่ทางการเขตปกครองนครหลวงสหพันธ์
ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสิ่งปลูกสร้างมองเห็นปัญหานี้มาตั้งแต่ปี 2546 (2003) พยายามขับไล่ชาวบ้านที่เข้าไปสร้างบ้านเรือน
ชุมชนในเขตพื้นที่ของทางราชการ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ มาในยุคปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายเจรจาให้ชาวบ้านที่ปลูกบ้านเรือนรุกล้ำที่ดินของทางราชการออกจากพื้นที่
โดยเสนอแลกที่
คือไม่ได้ไล่ให้ออกไปเฉยๆ แต่นำเอาที่ดินที่มีการสร้างสาธารณูปโภคแล้วมาเสนอแลก
เพื่อให้ชุมชนที่ตั้งบ้านเรือนโดยผิดกฎหมายย้ายออกไปอยู่ที่แห่งใหม่
ที่ทางการจัดเตรียมความพร้อมไว้ให้ แรกๆนั้นชาวบ้านก็เห็นดีเห็นงามยอมเจรจาด้วยโดยดี
เพราะทราบดีว่าหากไม่ยอมเจรจาทางการอาจใช้วิธีบ้าบิ่นโดยรื้อบ้านเรือนของตนเสียก็จะเดือดร้อนไปใหญ่
แต่หลังจากการเจรจาทำท่าว่าจะไปได้ดี
มาบัดนี้ชุมชนผิดกฎหมายในอาบูจาก็เกิดกลับลำอีกแล้ว บอกว่า ไม่แลกที่
ไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น